ชนไก่.com
Monday, May 27, 2013
การฝึกซ้อมและออกกำลังกายไก่ชน
การเลี้ยงลูกไก่ชน
การเลี้ยงลูกไก่ชน

ธรรมชาติของไก่พื้นบ้าน เมื่อฟักลูกไก่ออกแล้วยังต้องทำหน้าที่เลี้ยงดู โดยหาอาหารตาม ธรรมชาติและป้องกันภยันตรายทั้งหลายจนลูกไก่อายุประมาณระหว่าง 6 - 10 สัปดาห์ แม่ไก่จึงจะปล่อยให้ลูกหากินตามอิสระ การที่แม่ไก่ต้องคอยเลี้ยงดูลูกไก่นั้น จะมีผลเสียเกิดขึ้นได้ดังนี้ ในระหว่างการเลี้ยงลูกนั้น แม่ไก่จะหยุดการให้ไข่โดยสิ้นเชิง ทำให้การออกไข่ของชุดต่อไปล่าช้า อัตราการตายของลูกไก่สูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนจากร้อนจัดแล้วฝนตก ทำให้ลูกไก่ได้รับสภาวะเครียด ถ้าปรับตัวไม่ทันมักจะตาย ในแหล่งที่มีอาหารตามธรรมชาติไม่เพียงพอ ย่อมทำให้ลูกไก่ได้รับอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้อ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำลง เป็นผลทำให้ลูกไก่ตายด้วยโรคแทรกซ้อนได้ง่าย จำนวนลูกไก่ที่ฟักได้ต่อปีต่อแม่ไก่ลดลง ผลเสียดังกล่าวข้างต้น โดยปกติเกษตรกรมักมองข้ามและไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร เป็นเพราะราคาไม่สูงเหมือนกับสัตว์ใหญ่ชนิดอื่น ๆ ที่จำหน่ายได้ในราคาสูง ๆ
อย่างไรก็ตามถ้าเกษตรกรจะยอมลงทุนบ้างและให้ความเอาใจใส่เพิ่มขึ้นอีกเล้กน้อยก็จะสามารถลดความสูญเสียดังกล่าวได้มากพอควร ซึ่งอาจเพียงพอที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขทำได้โดยการแยกลูกไก่จากแม่ไก่มากเองภายในคอกไก่ การกกลูกไก่ คือการให้ความอบอุ่นแก่ลูกไก่โดยอาศัยความอบอุ่นจากหลอดไฟฟ้า หรือลวดร้อน หรือเตาถ่าน เป็นต้น ซึ่งก็เปรียบเสมือน บริเวณใต้ปีกไก่ของแม่ไก่ที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ลูก ๆ นั่นเอง อุปกรณ์และวัสดุที่ใช้สำหรับการกกลูกไก่ประกอบด้วย
วัสดุรองพื้นคอก ที่นิยมใช้คือ แกลบเพราะหาได้สะดวก หรือจะเป็นพวกขี้เลื่อย หรือฟางข้าวแห้งนำมาตัดเป็นท่อน ๆ ยาวพอประมาณก็ได้
แผงกั้นกกลูกไก่ อุปกรณ์ชนิดนี้มีไว้สำหรับจำกัดบริเวณลูกไก่ให้อยู่เฉพาะบริเวณที่มีความอบอุ่น และมีอาหาร ลูกไก่แรกเกิดนั้น จะยังไม่คุ้นเคยว่าบริเวณใดอบอุ่น ถ้าไม่มีแผงกั้นกก ลูกไก่อาจเดินหลงไปตามมุมคอกไก่ซึ่งความอบอุ่นไปไม่ถึง ย่อมส่งผลสูญเสียต่อการเลี้ยง แผงกั้นกกอาจทำจากไม้ไผ่ หรือวัสดุชนิดใดก็ได้ที่กั้นแล้วลูกไก่ลอดผ่านไม่ได้ โดยมากมักวางแผงกั้นกกเป็นรูปวงกลมจะดีกว่าวางเป็นรูปเหลี่ยม
หลอดไฟฟ้า หลอดไฟ 100 วัตต์พร้อมฝาโป๊ะ 1 ชุด สามารถใช้กกลูกไก่ได้ประมาณ 10 - 50 ตัว แต่ในหมู่บ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้า อาจดัดแปลงใช้เตาถ่านที่ยังมีความร้อนอยู่วางไว้บริเวณกึ่งกลางของแผงกั้นกกแล้วใช้แผ่นสังกะสีล้อมรอบเตาถ่ายนั้น ไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกไก่เดินชน หรือโดดลงไปในเตาถ่าน
ม่านกั้นคอกไก่ มีไว้สำหรับป้องกันไม่ให้ลมฝนผ่านเข้าในคอกในระยะการกก ม่านนั้นอาจทำจากวัสดุเหลือทิ้ง เช่น พวกถุงปุ๋ยเก่า ๆ หรือพวกพลาสติก ซึ่งต้องนำมาล้างให้สะอาดก่อนนำมาทำเป็นม่าน
ที่ให้น้ำและอาหาร อาจทำจากไม้ไผ่ผ่าซีก หรือทำจากยางรถจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์เก่า ๆ ก็ได้ แต่ขนาดของยางไม่ควรกว้างและลึกเกินไป การกกลูกไก่นั้น จะใช้เวลาประมาณ 3 - 5 สัปดาห์ ส่วนในฤดูร้อนจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ การกกในฤดูร้อนในช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดกกเพราะอุณหภูมิสูงอยู่แล้ว บางครั้งยังต้องเปิดม่านเพื่อให้ลมพัดผ่านระบายความร้อนภายในคอกออกไปด้วย ส่วนในเวลากลางคืน ควรเปิดกกและปิดม่านให้เรียบร้อย
การอนุบาลลูกไก่ชน
ปัญหาการเลี้ยงไก่ แล้วลูกไก่มักจะตายมากกว่าการรอด การเลี้ยงไก่ชนนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด การอนุบาลลูกไก่โดยเฉพาะหน้าฝน เป็นช่วงที่เลี้ยงลูกไก่ยากมากเพราะลูกไก่มักจะเป็นหวัด แล้วโรคอื่นๆจะแทรกประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนทำให้เชื้อโรคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ แพร่กระจายได้รวดเร็วที่สุด การเลี้ยงหรืออนุบาลลูกไก่มีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้
ต้องให้ความอบอุ่นเพียงพอในกรณีที่เลี้ยงเอง ไม่ได้ให้แม่ของมันเลี้ยง โดยการกกไฟและอยู่ในสุ่มไม่ให้ถูกละอองฝน
หากให้แม่มันเลี้ยงต้องขังสุ่ม ไว้ในที่ไม่โดนฝน หากให้แม่มันเลี้ยงแล้วปล่อยให้แม่ของมันพาไป ตากลมตากฝน ก็มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่าย
ต้องมีการทำวัคซีน ให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลาที่กรมปศุสัตว์กำหนด คือ
นิวคาสเซิล ทำวัคซีนนิวคาสเซิลเมื่อลูกไก่มีอายุ 3 - 7 วัน โดยการหยอดจมูกหรือตาของลูกไก่
จำนวน 2 - 3 หยด เมื่อครบ 3 เดือนทำอีกครั้งหนึ่ง
หลอดลมอักเสบ ทำวัคซีนหลอดลมอักเสบ เมื่อลูกไก่อายุได้ 7 - 15 วัน โดยการหยอดจมูก
หรือตา จำนวน 2 - 3 หยด
หวัดหน้าบวม ทำวัคซีนหวัดหน้าบวม เมื่อลูกไก่อายุได้ 2 เดือน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ตัวละ 0.5 ซีซี
อหิวาต์ ทำวัคซีนอหิวาต์ เมื่อลูกไก่อายุได้ 3 เดือน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังตัวละ 1.0 ซีซี
ข้อควรระวังในการทำวัคซีน
การทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ควรทำในที่ร่มอย่าทำในที่แดดจ้า เพราะจะทำให้วัคซีนเสื่อม
การทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หากเกินกำหนดวัคซีนจะเสื่อม
อย่าเทวัคซีนที่เหลือลงพื้นดิน เพราะจะทำให้เชื้อนั้นเจริญเติบโตได้ในที่ชื้นแฉะ กลายเป็นเชื้อโรคแพร่ระบาดต่อไป
วัคซีนต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิไม่เกิน 5 - 8 องศาเซลเซียส มิฉะนั้นวัคซีนจะเสื่อม
การทำวัคซีนต้องทำกับไก่ที่มีสุขภาพแข็งแรง หากทำในไก่ที่ไม่สบายเช่นเป็นหวัด ถือเป็นข้อห้ามเพราะเท่ากับไปเพิ่มเชื้อโรคในไก่ ทำให้ไก่อ่อนแอ บางครั้งถึงตายได้
การทำวัคซีนไก่รุ่นและไก่ใหญ่ที่ไม่เคยทำวัคซีนมาตั้งแต่เล็ก บางตัวจะมีการแพ้ ดังนั้นควรให้กินยาพาราเซทตามอล สักครึ่งเม็ดหลังจากทำวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนนิวคาสเซิล ชนิดที่แทงปีกหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง รวมทั้งชนิดเชื้อตายด้วย
การให้อาหารลูกไก่ชน
การให้อาหารลูกไก่สำคัญมาก เพราะลูกไก่ต่างอายุกัน ย่อมมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน วิธีให้อาหาร คือ
ลูกไก่อายุ 1 วัน เมื่อเอาลงมาจากรังไข่ ยังไม่ต้องให้อาหาร เพราะลูกไก่มีอาหารสำรองอยู่ในกระเพาะแล้ว ควรให้กินแต่น้ำสะอาด และนำกรวดทรายเม็ดเล็กๆ มาวางไว้เพื่อให้ลูกไก่หัดจิกกิน
ลูกไก่อายุ 2 - 7 วันควรให้กินปลายข้าวผสมกับหัวอาหาร ให้ทั้งเช้าและเย็น แต่ควรให้กินครั้งละน้อยๆเท่าที่ลูกไก่กินหมดภายใน 3 - 5นาทีเท่านั้น นำน้ำสะอาจและกรวดทรายเล็กๆ มาวางไว้ให้ลูกไก่กินตลอดเวลา
ลูกไก่อายุ 2 สัปดาห์ ช่วงนี้ลูกไก่สามารถหาอาหารอย่างอื่นกินได้บ้างแล้ว แต่ก็ควรให้ปลายข้าวผสมหัวอาหาร อาหารหยาบ เช่น รำละเอียดผสมกับปลายข้าว กากถั่ว ข้าวโพดบด ปลาป่น กระดูกป่น เปลือกหอยป่น โดยผสมตามสูตรดังนี้ กระดูกป่น 0.1 กิโลกรัม เปลือกหอยป่น 0.2 กิโลกรัม อาจผสมเกลือแกงลงไปประมาณ 1 ช้อนชา ผสม พรีมิกซ์ไวตามินลงไปด้วยสักเล็กน้อย ควรหาเศษผัก หรือหญ้าสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โปรยให้ไก่กินวันละ 1-2 ครั้ง ที่สำคัญมากที่สุดก็คือน้ำสะอาดต้องมีตลอดเวลา คอยมั่นทำความ สะอาดบริเวณที่นอนของลูกไก่ อย่าให้สกปรก หมักหมม ควรให้ลูกไก่ถูกแสงแดดบ้างทั้งเช้าและเย็น
ลูกไก่อายุย่างเข้า 3 - 6 สัปดาห์ ลูกไก่ที่อยู่ในระยะนี้ขนจะขึ้นสมบูรณ์แล้ว และที่สำคัญจะเริ่มมีการจิกกัน อาหารผักสดยังคงให้เหมือนเดิม อาจจะเพิ่มกรวดทรายให้กินเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
ลูกไก่อายุ 7 - 8 สัปดาห์ ไก่ในช่วงเวลานี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม ควรแยกตัวผู้ และ ตัวเมียออกจากกัน ถ้าต้องการจะนำตัวผู้ไปตอน ก็ควรทำเสียตอนนี้เลย สำหรับการเลี้ยงดูควรให้อาหารและน้ำอย่างเพียงพอ คอยทำความสะอาดกรง หรือโรงเรือนอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นไก่จะไม่สบายตัว
ลูกไก่อายุ 9 - 10 สัปดาห์ ระยะนี้การให้อาหารง่ายมาก ควรให้กินข้าวเปลือกได้แล้ว อย่างน้อยวันละครั้งในตอนบ่าย ปล่อยไว้ที่ลานซึ่งเป็นพื้นดินและพื้นหญ้า ควรปล่อยให้หาอาหารเองตามธรรมชาติ ควรเสริมอาหารเมื้อเช้าและเมื้อเที่ยงให้ด้วย มื้อเช้าให้จำพวกผักและเนื้อสัตว์ ตอนเที่ยงควรเป็นข้าวสารมื้อเย็นเป็นข้าวเปลือก เมื่อย่างเข้าฤดูร้อนและฤดูฝนไก่มักขาดสารอาหารควรให้อาหารเสริม เช่น ใบกระถินโดยนำไปตากแห้ง แล้วนำไปแช่ลงในน้ำสะอาด 1 วัน เพื่อลดสารพิษ เป็นการช่วยเสริมสารอาหารแก่ไก่เป็นอย่างดี
ลูกไก่อายุ 10 สัปดาห์เป็นต้นไป เมื่อโตถึงขั้นนี้แล้วจะมีความสามารถหาอาหาร ตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แต่ระยะนี้ไก่ให้ผลผลิตเพื่อสืบพันธุ์ไก่จึงมีความต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ควร ให้ปลายข้าว รำ ข้าวเปลือก เปลือกหอย กระดองปู เพื่อให้มีการเสริมธาตุ อาหารแคลเซียมยมและฟอสฟอรัส เมื่อได้มาแล้วให้นำมาทุบให้ละเอียดใส่ภาชนะตั้งทิ้งไว้ให้ไก่กินได้ ตลอดจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของไก่
การออกกำลังกายลูกไก่ชน
การฝึกให้ไก่ออกกำลังเป็นเทคนิคหรือวิธีหนึ่งในการเลี้ยงไก่ให้เก่ง ไก่จะเก่งได้ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง กระดูก ข้อต่อและกล้ามเนื้อของไก่เป็นสิ่งที่สำคัญ การฝึกไก่ให้ออกกำลังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ ทำให้กล้ามเนื้อของไก่แน่นแข็งแรง พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวในทุกลีลาชั้นเชิง การฝึกไก่ให้ออกกำลังสามารถทำได้ตั้งแต่ไก่ยังอายุน้อยเพื่อเป็นการวางรากฐานโครงสร้างที่ดีให้กับลูกไก่ การฝึกไก่ให้ออกกำลังนอกจากจะทำให้ไก่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูกไก่ได้อีกทางหนึ่งด้วย วิธีการฝึกลูกให้ออกกำลังมีหลายวิธี ดังนี้
ติดดั้งและหมั่นปรับระดับภาชนะใส่น้ำให้สุงขึ้นตามความสูงของไก่ ปรับให้สุงประมาณระดับสายตาของไก่(ขณะที่ไก่ยืนยืดคอชูคอ) เวลาจะกินน้ำไก่จะเขย่งขา ยืดตัว ยืดอกและคอ ทำให้ไก่ได้ออกแรงยืดเส้นยืดสาย เป็นการบริหารขาและคอไปด้วยขณะกินน้ำ เมื่อไก่ยืดคอบ่อยๆ เป็นประจำ จะทำให้ไก่เคยชินจนติดเป็นนิสัย อาจส่งผลดีไปถึงชั้นเชิงของไก่ ทำให้ไก่ไม่ก้มหัวลงต่ำเวลาชน เป็นการส่งเสริมให้ไก่มีเชิงคุมบน ซึ่งเป็นเชิงดีนิยม
หว่านอาหารลงบนพื้นดินให้ลูกไก่คุ้ยเขี่ยจิกกิน การให้อาหารไก่แบบใส่ภาชนะหรืองรางใส่อาหารแต่เพียงอย่างเดียว อาจทำให้ไก่ไม่ค่อยได้ใช้ขา ไม่ได้บริหารกล้ามเนื้อขา ผู้เลี้ยงไก่ชนควรหว่านอาหารลงบนพื้นดินบ้าง เพื่อให้ไก่ได้คุ้ยเขี่ยจิกหาอาหารที่ซุกซ่อยอยู่ตามพื้นดิน ทำให้ไก่ได้ออกกำลัง ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อขาของไก่แข็งแรง ไม่เป็นไก่ขาอ่อน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสายตาให้กับลูกไก่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
เอาอาหารที่ไก่ชอบโยนให้ลูกไก่กินบ้าง หากทำเป็นประจำได้ก็ยิ่งดี การเลี้ยงลูกไก่ไว้ในบริเวณที่จำกัด เช่น ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่มอาจทำให้ไก่ไม่ค่อยได้วิ่งออกกำลัง วิธีการหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้ก็คือ การเอาแมลงหรืออาหารแปลกๆ ที่ไก่ชอบโยนให้ไก่กิน ไก่จะวิ่งไล่จับแมลง และวิ่งไล่แย่งอาหารกันเอง ทำให้ไก่ได้ออกกำลัง ตัวอย่างแมลงที่ไก่ชอบ ได้แก่ แมลงกระชอน ตะขาบ เขียด จิ้งจก จิ้งหรีด เป็นต้น(หากอาหารชิ้นใหญ่กว่าปากไก่จะดีมากๆ เพราะในการจิกอาหารชิ้นใหญ่ ต้องใช้เวลามาก ทำให้ลูกไก่วิ่งไล่แย่งอาหารกันได้นานขึ้น)
ผูกอาหารที่ไก่ชอบห้อยไว้ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่ม โดยห้อยไว้ที่ระดับความสูงพอประมาณ ให้ไก่สามารถกระโดดและบินถึงได้ เมื่อไก่เห็นอาหารห้อยอยู่บนที่สูง ไก่ก็จะกระโดดและบินขึ้นจิกอาหารครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ไก่ได้ออกกำลังแทบทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อคอ ขา และปีก อีกทั้งยังได้ฝึกการใช้ปากจิกอาหาร การใช้สายตาเพ่งเพื่อจู่โจมเป้าหมาย เป็นการเพิ่มประสบการณ์และความชำนาญให้กับลูกไก่ได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างอาหารที่ไก่ชอบกิน ได้แก่ แตง ผักกาด ตลอดจนผักใบเขียวต่างๆ กล้วย แมลงกระชอน ตะขาบ เขียด จิ้งหรีด เป็นต้น(แมลงที่ดิ้นไปมาจะเรียกความสนใจของไก่ ทำให้ไก่อยากรู้อยากลองมากขึ้น)
ทำคอนให้ไก่เหยียบ ลูกไก่มักมีความซุกซนอยากรู้อยากเห็นอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว หากเราทำคอนหรือกิ่งไม้ไว้ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่ม ลูกไก่จะกระโดดบินขึ้นไปเหยียบเกาะบนคอนที่สูง ทำให้ไก่มีโอกาสได้ออกกำลังตลอดเวลา ลูกไก่จะได้บริหารทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก ปีกและขา ทำให้ไก่มีกำลังขา ไม่เป็นไก่ขาอ่อน ปีกก็แข็งแรงทำให้ไก่จิกบินตีได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว
ธรรมชาติของไก่พื้นบ้าน เมื่อฟักลูกไก่ออกแล้วยังต้องทำหน้าที่เลี้ยงดู โดยหาอาหารตาม ธรรมชาติและป้องกันภยันตรายทั้งหลายจนลูกไก่อายุประมาณระหว่าง 6 - 10 สัปดาห์ แม่ไก่จึงจะปล่อยให้ลูกหากินตามอิสระ การที่แม่ไก่ต้องคอยเลี้ยงดูลูกไก่นั้น จะมีผลเสียเกิดขึ้นได้ดังนี้ ในระหว่างการเลี้ยงลูกนั้น แม่ไก่จะหยุดการให้ไข่โดยสิ้นเชิง ทำให้การออกไข่ของชุดต่อไปล่าช้า อัตราการตายของลูกไก่สูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนจากร้อนจัดแล้วฝนตก ทำให้ลูกไก่ได้รับสภาวะเครียด ถ้าปรับตัวไม่ทันมักจะตาย ในแหล่งที่มีอาหารตามธรรมชาติไม่เพียงพอ ย่อมทำให้ลูกไก่ได้รับอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้อ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำลง เป็นผลทำให้ลูกไก่ตายด้วยโรคแทรกซ้อนได้ง่าย จำนวนลูกไก่ที่ฟักได้ต่อปีต่อแม่ไก่ลดลง ผลเสียดังกล่าวข้างต้น โดยปกติเกษตรกรมักมองข้ามและไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร เป็นเพราะราคาไม่สูงเหมือนกับสัตว์ใหญ่ชนิดอื่น ๆ ที่จำหน่ายได้ในราคาสูง ๆ
อย่างไรก็ตามถ้าเกษตรกรจะยอมลงทุนบ้างและให้ความเอาใจใส่เพิ่มขึ้นอีกเล้กน้อยก็จะสามารถลดความสูญเสียดังกล่าวได้มากพอควร ซึ่งอาจเพียงพอที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขทำได้โดยการแยกลูกไก่จากแม่ไก่มากเองภายในคอกไก่ การกกลูกไก่ คือการให้ความอบอุ่นแก่ลูกไก่โดยอาศัยความอบอุ่นจากหลอดไฟฟ้า หรือลวดร้อน หรือเตาถ่าน เป็นต้น ซึ่งก็เปรียบเสมือน บริเวณใต้ปีกไก่ของแม่ไก่ที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ลูก ๆ นั่นเอง อุปกรณ์และวัสดุที่ใช้สำหรับการกกลูกไก่ประกอบด้วย
วัสดุรองพื้นคอก ที่นิยมใช้คือ แกลบเพราะหาได้สะดวก หรือจะเป็นพวกขี้เลื่อย หรือฟางข้าวแห้งนำมาตัดเป็นท่อน ๆ ยาวพอประมาณก็ได้
แผงกั้นกกลูกไก่ อุปกรณ์ชนิดนี้มีไว้สำหรับจำกัดบริเวณลูกไก่ให้อยู่เฉพาะบริเวณที่มีความอบอุ่น และมีอาหาร ลูกไก่แรกเกิดนั้น จะยังไม่คุ้นเคยว่าบริเวณใดอบอุ่น ถ้าไม่มีแผงกั้นกก ลูกไก่อาจเดินหลงไปตามมุมคอกไก่ซึ่งความอบอุ่นไปไม่ถึง ย่อมส่งผลสูญเสียต่อการเลี้ยง แผงกั้นกกอาจทำจากไม้ไผ่ หรือวัสดุชนิดใดก็ได้ที่กั้นแล้วลูกไก่ลอดผ่านไม่ได้ โดยมากมักวางแผงกั้นกกเป็นรูปวงกลมจะดีกว่าวางเป็นรูปเหลี่ยม
หลอดไฟฟ้า หลอดไฟ 100 วัตต์พร้อมฝาโป๊ะ 1 ชุด สามารถใช้กกลูกไก่ได้ประมาณ 10 - 50 ตัว แต่ในหมู่บ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้า อาจดัดแปลงใช้เตาถ่านที่ยังมีความร้อนอยู่วางไว้บริเวณกึ่งกลางของแผงกั้นกกแล้วใช้แผ่นสังกะสีล้อมรอบเตาถ่ายนั้น ไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกไก่เดินชน หรือโดดลงไปในเตาถ่าน
ม่านกั้นคอกไก่ มีไว้สำหรับป้องกันไม่ให้ลมฝนผ่านเข้าในคอกในระยะการกก ม่านนั้นอาจทำจากวัสดุเหลือทิ้ง เช่น พวกถุงปุ๋ยเก่า ๆ หรือพวกพลาสติก ซึ่งต้องนำมาล้างให้สะอาดก่อนนำมาทำเป็นม่าน
ที่ให้น้ำและอาหาร อาจทำจากไม้ไผ่ผ่าซีก หรือทำจากยางรถจักรยานหรือมอเตอร์ไซด์เก่า ๆ ก็ได้ แต่ขนาดของยางไม่ควรกว้างและลึกเกินไป การกกลูกไก่นั้น จะใช้เวลาประมาณ 3 - 5 สัปดาห์ ส่วนในฤดูร้อนจะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ การกกในฤดูร้อนในช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดกกเพราะอุณหภูมิสูงอยู่แล้ว บางครั้งยังต้องเปิดม่านเพื่อให้ลมพัดผ่านระบายความร้อนภายในคอกออกไปด้วย ส่วนในเวลากลางคืน ควรเปิดกกและปิดม่านให้เรียบร้อย
การอนุบาลลูกไก่ชน
ปัญหาการเลี้ยงไก่ แล้วลูกไก่มักจะตายมากกว่าการรอด การเลี้ยงไก่ชนนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด การอนุบาลลูกไก่โดยเฉพาะหน้าฝน เป็นช่วงที่เลี้ยงลูกไก่ยากมากเพราะลูกไก่มักจะเป็นหวัด แล้วโรคอื่นๆจะแทรกประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนทำให้เชื้อโรคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ แพร่กระจายได้รวดเร็วที่สุด การเลี้ยงหรืออนุบาลลูกไก่มีข้อควรพิจารณาดังต่อไปนี้
ต้องให้ความอบอุ่นเพียงพอในกรณีที่เลี้ยงเอง ไม่ได้ให้แม่ของมันเลี้ยง โดยการกกไฟและอยู่ในสุ่มไม่ให้ถูกละอองฝน
หากให้แม่มันเลี้ยงต้องขังสุ่ม ไว้ในที่ไม่โดนฝน หากให้แม่มันเลี้ยงแล้วปล่อยให้แม่ของมันพาไป ตากลมตากฝน ก็มีโอกาสเป็นหวัดได้ง่าย
ต้องมีการทำวัคซีน ให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลาที่กรมปศุสัตว์กำหนด คือ
นิวคาสเซิล ทำวัคซีนนิวคาสเซิลเมื่อลูกไก่มีอายุ 3 - 7 วัน โดยการหยอดจมูกหรือตาของลูกไก่
จำนวน 2 - 3 หยด เมื่อครบ 3 เดือนทำอีกครั้งหนึ่ง
หลอดลมอักเสบ ทำวัคซีนหลอดลมอักเสบ เมื่อลูกไก่อายุได้ 7 - 15 วัน โดยการหยอดจมูก
หรือตา จำนวน 2 - 3 หยด
หวัดหน้าบวม ทำวัคซีนหวัดหน้าบวม เมื่อลูกไก่อายุได้ 2 เดือน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ตัวละ 0.5 ซีซี
อหิวาต์ ทำวัคซีนอหิวาต์ เมื่อลูกไก่อายุได้ 3 เดือน โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังตัวละ 1.0 ซีซี
ข้อควรระวังในการทำวัคซีน
การทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ควรทำในที่ร่มอย่าทำในที่แดดจ้า เพราะจะทำให้วัคซีนเสื่อม
การทำวัคซีนทุกครั้ง โดยเฉพาะเชื้อเป็น ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หากเกินกำหนดวัคซีนจะเสื่อม
อย่าเทวัคซีนที่เหลือลงพื้นดิน เพราะจะทำให้เชื้อนั้นเจริญเติบโตได้ในที่ชื้นแฉะ กลายเป็นเชื้อโรคแพร่ระบาดต่อไป
วัคซีนต้องเก็บไว้ในอุณหภูมิไม่เกิน 5 - 8 องศาเซลเซียส มิฉะนั้นวัคซีนจะเสื่อม
การทำวัคซีนต้องทำกับไก่ที่มีสุขภาพแข็งแรง หากทำในไก่ที่ไม่สบายเช่นเป็นหวัด ถือเป็นข้อห้ามเพราะเท่ากับไปเพิ่มเชื้อโรคในไก่ ทำให้ไก่อ่อนแอ บางครั้งถึงตายได้
การทำวัคซีนไก่รุ่นและไก่ใหญ่ที่ไม่เคยทำวัคซีนมาตั้งแต่เล็ก บางตัวจะมีการแพ้ ดังนั้นควรให้กินยาพาราเซทตามอล สักครึ่งเม็ดหลังจากทำวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนนิวคาสเซิล ชนิดที่แทงปีกหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง รวมทั้งชนิดเชื้อตายด้วย
การให้อาหารลูกไก่ชน
การให้อาหารลูกไก่สำคัญมาก เพราะลูกไก่ต่างอายุกัน ย่อมมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน วิธีให้อาหาร คือ
ลูกไก่อายุ 1 วัน เมื่อเอาลงมาจากรังไข่ ยังไม่ต้องให้อาหาร เพราะลูกไก่มีอาหารสำรองอยู่ในกระเพาะแล้ว ควรให้กินแต่น้ำสะอาด และนำกรวดทรายเม็ดเล็กๆ มาวางไว้เพื่อให้ลูกไก่หัดจิกกิน
ลูกไก่อายุ 2 - 7 วันควรให้กินปลายข้าวผสมกับหัวอาหาร ให้ทั้งเช้าและเย็น แต่ควรให้กินครั้งละน้อยๆเท่าที่ลูกไก่กินหมดภายใน 3 - 5นาทีเท่านั้น นำน้ำสะอาจและกรวดทรายเล็กๆ มาวางไว้ให้ลูกไก่กินตลอดเวลา
ลูกไก่อายุ 2 สัปดาห์ ช่วงนี้ลูกไก่สามารถหาอาหารอย่างอื่นกินได้บ้างแล้ว แต่ก็ควรให้ปลายข้าวผสมหัวอาหาร อาหารหยาบ เช่น รำละเอียดผสมกับปลายข้าว กากถั่ว ข้าวโพดบด ปลาป่น กระดูกป่น เปลือกหอยป่น โดยผสมตามสูตรดังนี้ กระดูกป่น 0.1 กิโลกรัม เปลือกหอยป่น 0.2 กิโลกรัม อาจผสมเกลือแกงลงไปประมาณ 1 ช้อนชา ผสม พรีมิกซ์ไวตามินลงไปด้วยสักเล็กน้อย ควรหาเศษผัก หรือหญ้าสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โปรยให้ไก่กินวันละ 1-2 ครั้ง ที่สำคัญมากที่สุดก็คือน้ำสะอาดต้องมีตลอดเวลา คอยมั่นทำความ สะอาดบริเวณที่นอนของลูกไก่ อย่าให้สกปรก หมักหมม ควรให้ลูกไก่ถูกแสงแดดบ้างทั้งเช้าและเย็น
ลูกไก่อายุย่างเข้า 3 - 6 สัปดาห์ ลูกไก่ที่อยู่ในระยะนี้ขนจะขึ้นสมบูรณ์แล้ว และที่สำคัญจะเริ่มมีการจิกกัน อาหารผักสดยังคงให้เหมือนเดิม อาจจะเพิ่มกรวดทรายให้กินเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
ลูกไก่อายุ 7 - 8 สัปดาห์ ไก่ในช่วงเวลานี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม ควรแยกตัวผู้ และ ตัวเมียออกจากกัน ถ้าต้องการจะนำตัวผู้ไปตอน ก็ควรทำเสียตอนนี้เลย สำหรับการเลี้ยงดูควรให้อาหารและน้ำอย่างเพียงพอ คอยทำความสะอาดกรง หรือโรงเรือนอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นไก่จะไม่สบายตัว
ลูกไก่อายุ 9 - 10 สัปดาห์ ระยะนี้การให้อาหารง่ายมาก ควรให้กินข้าวเปลือกได้แล้ว อย่างน้อยวันละครั้งในตอนบ่าย ปล่อยไว้ที่ลานซึ่งเป็นพื้นดินและพื้นหญ้า ควรปล่อยให้หาอาหารเองตามธรรมชาติ ควรเสริมอาหารเมื้อเช้าและเมื้อเที่ยงให้ด้วย มื้อเช้าให้จำพวกผักและเนื้อสัตว์ ตอนเที่ยงควรเป็นข้าวสารมื้อเย็นเป็นข้าวเปลือก เมื่อย่างเข้าฤดูร้อนและฤดูฝนไก่มักขาดสารอาหารควรให้อาหารเสริม เช่น ใบกระถินโดยนำไปตากแห้ง แล้วนำไปแช่ลงในน้ำสะอาด 1 วัน เพื่อลดสารพิษ เป็นการช่วยเสริมสารอาหารแก่ไก่เป็นอย่างดี
ลูกไก่อายุ 10 สัปดาห์เป็นต้นไป เมื่อโตถึงขั้นนี้แล้วจะมีความสามารถหาอาหาร ตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แต่ระยะนี้ไก่ให้ผลผลิตเพื่อสืบพันธุ์ไก่จึงมีความต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ควร ให้ปลายข้าว รำ ข้าวเปลือก เปลือกหอย กระดองปู เพื่อให้มีการเสริมธาตุ อาหารแคลเซียมยมและฟอสฟอรัส เมื่อได้มาแล้วให้นำมาทุบให้ละเอียดใส่ภาชนะตั้งทิ้งไว้ให้ไก่กินได้ ตลอดจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของไก่
การออกกำลังกายลูกไก่ชน
การฝึกให้ไก่ออกกำลังเป็นเทคนิคหรือวิธีหนึ่งในการเลี้ยงไก่ให้เก่ง ไก่จะเก่งได้ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง กระดูก ข้อต่อและกล้ามเนื้อของไก่เป็นสิ่งที่สำคัญ การฝึกไก่ให้ออกกำลังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ ทำให้กล้ามเนื้อของไก่แน่นแข็งแรง พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวในทุกลีลาชั้นเชิง การฝึกไก่ให้ออกกำลังสามารถทำได้ตั้งแต่ไก่ยังอายุน้อยเพื่อเป็นการวางรากฐานโครงสร้างที่ดีให้กับลูกไก่ การฝึกไก่ให้ออกกำลังนอกจากจะทำให้ไก่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูกไก่ได้อีกทางหนึ่งด้วย วิธีการฝึกลูกให้ออกกำลังมีหลายวิธี ดังนี้
ติดดั้งและหมั่นปรับระดับภาชนะใส่น้ำให้สุงขึ้นตามความสูงของไก่ ปรับให้สุงประมาณระดับสายตาของไก่(ขณะที่ไก่ยืนยืดคอชูคอ) เวลาจะกินน้ำไก่จะเขย่งขา ยืดตัว ยืดอกและคอ ทำให้ไก่ได้ออกแรงยืดเส้นยืดสาย เป็นการบริหารขาและคอไปด้วยขณะกินน้ำ เมื่อไก่ยืดคอบ่อยๆ เป็นประจำ จะทำให้ไก่เคยชินจนติดเป็นนิสัย อาจส่งผลดีไปถึงชั้นเชิงของไก่ ทำให้ไก่ไม่ก้มหัวลงต่ำเวลาชน เป็นการส่งเสริมให้ไก่มีเชิงคุมบน ซึ่งเป็นเชิงดีนิยม
หว่านอาหารลงบนพื้นดินให้ลูกไก่คุ้ยเขี่ยจิกกิน การให้อาหารไก่แบบใส่ภาชนะหรืองรางใส่อาหารแต่เพียงอย่างเดียว อาจทำให้ไก่ไม่ค่อยได้ใช้ขา ไม่ได้บริหารกล้ามเนื้อขา ผู้เลี้ยงไก่ชนควรหว่านอาหารลงบนพื้นดินบ้าง เพื่อให้ไก่ได้คุ้ยเขี่ยจิกหาอาหารที่ซุกซ่อยอยู่ตามพื้นดิน ทำให้ไก่ได้ออกกำลัง ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อขาของไก่แข็งแรง ไม่เป็นไก่ขาอ่อน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสายตาให้กับลูกไก่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
เอาอาหารที่ไก่ชอบโยนให้ลูกไก่กินบ้าง หากทำเป็นประจำได้ก็ยิ่งดี การเลี้ยงลูกไก่ไว้ในบริเวณที่จำกัด เช่น ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่มอาจทำให้ไก่ไม่ค่อยได้วิ่งออกกำลัง วิธีการหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้ก็คือ การเอาแมลงหรืออาหารแปลกๆ ที่ไก่ชอบโยนให้ไก่กิน ไก่จะวิ่งไล่จับแมลง และวิ่งไล่แย่งอาหารกันเอง ทำให้ไก่ได้ออกกำลัง ตัวอย่างแมลงที่ไก่ชอบ ได้แก่ แมลงกระชอน ตะขาบ เขียด จิ้งจก จิ้งหรีด เป็นต้น(หากอาหารชิ้นใหญ่กว่าปากไก่จะดีมากๆ เพราะในการจิกอาหารชิ้นใหญ่ ต้องใช้เวลามาก ทำให้ลูกไก่วิ่งไล่แย่งอาหารกันได้นานขึ้น)
ผูกอาหารที่ไก่ชอบห้อยไว้ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่ม โดยห้อยไว้ที่ระดับความสูงพอประมาณ ให้ไก่สามารถกระโดดและบินถึงได้ เมื่อไก่เห็นอาหารห้อยอยู่บนที่สูง ไก่ก็จะกระโดดและบินขึ้นจิกอาหารครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ไก่ได้ออกกำลังแทบทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อคอ ขา และปีก อีกทั้งยังได้ฝึกการใช้ปากจิกอาหาร การใช้สายตาเพ่งเพื่อจู่โจมเป้าหมาย เป็นการเพิ่มประสบการณ์และความชำนาญให้กับลูกไก่ได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างอาหารที่ไก่ชอบกิน ได้แก่ แตง ผักกาด ตลอดจนผักใบเขียวต่างๆ กล้วย แมลงกระชอน ตะขาบ เขียด จิ้งหรีด เป็นต้น(แมลงที่ดิ้นไปมาจะเรียกความสนใจของไก่ ทำให้ไก่อยากรู้อยากลองมากขึ้น)
ทำคอนให้ไก่เหยียบ ลูกไก่มักมีความซุกซนอยากรู้อยากเห็นอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว หากเราทำคอนหรือกิ่งไม้ไว้ในเล้าตาข่ายหรือในสุ่ม ลูกไก่จะกระโดดบินขึ้นไปเหยียบเกาะบนคอนที่สูง ทำให้ไก่มีโอกาสได้ออกกำลังตลอดเวลา ลูกไก่จะได้บริหารทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก ปีกและขา ทำให้ไก่มีกำลังขา ไม่เป็นไก่ขาอ่อน ปีกก็แข็งแรงทำให้ไก่จิกบินตีได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว
การเพาะและพัฒนาสายพันธ์ไก่ชน
หลักการผสมพันธุ์

มี 2 แบบอย่างกว้างๆ คือ
การผสมพันธุ์ระหว่าง พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ไม่เป็นญาติกัน
การผสมกันระหว่างญาติพี่น้องสายเลือดใกล้ชิดกัน หรือเรียกว่าการผสมพันธุ์แบบเลือดชิด อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติเราจะหลีกเลี่ยงการผสมเลือดชิดค่อนข้างยาก เพราะเรามีจำนวนพ่อแม่พันธุ์จำกัด ในทางทฤษฎีก็ทำได้แต่อย่าให้เลือดชิดสูงเกิน 49% โดยเฉพาะการปรับปรุงพันธุ์ไก่ให้ได้เลือดบริสุทธิ์หรือพันธุ์แม้ เราจะผสมพันธุ์ให้เลือดสูงถึง 49% ก็จะได้พันธุ์ใหม่ หรือพันธุ์ของเราเองซึ่งเป็นพันธุ์ไก่ที่มีคุณสมบัติเฉพาะพันธุ์ ในทางปฏิบัติทั่วๆ ไป เราจะพยายามให้เปอร์เซ็นต์การผสมเลือดชิดอยู่ระหว่าง 15-25% อัตราการผสมเลือดชิดนี้ จะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ดังนั้นเราต้องวางแผนว่าในระยะเวลา 10 ปี ข้างหน้าเราจะให้ฝูงไก้ของเรามีเลือดชิดกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปคำนวณหาว่าเรา ควรจะมีพ่อ - แม่พันธุ์ในฝูงของเรากี่ตัว ซึ่งเกษตรกรส่วนมากไม่รู้ว่าฝูงไก่ของเราหรือในฟาร์มของเรา ควรจะเก็บพ่อ - แม่หรือไก่ทดแทนไว้กี่ตัว จึงจะทำการปรับปรุงพันธุ์ได้ ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้
สูตร : อัตราการผสมเลือดชิดเพิ่มขึ้นต่อปี=100 x [(1/(8 x จำนวนพ่อพันธุ์)) + (1/(8 x จำนวนแม่พันธุ์))]%
การคัดเลือกพ่อพันธุ์
พ่อพันธุ์จะต้องมีอายุอยู่ในช่วง 1 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี น้ำหนักตัวตั้งแต่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องมาจากสายเลือดที่บริสุทธิ์ มีรูปร่างลักษณะดี องอาจขนปีกและขนหางขึ้นเป็นระเบียบ นิสัยดี ไม่จิกตัวเมียและลูกไก่เล็ก สีตรงตามสายพันธุ์ เชิงชนหรือลีลาดี ตีแม่นยำ ลำหักลำโค่นดี จิตใจดีเหมียวแน่น ชนชนะบ่อยครั้ง
การคัดเลือกแม่พันธุ์
หน้าแหลมกลมกลึงแบบหน้านก ตาเรียวไม่ลึก ขอบตาสองชั้น ตาสีตามสายพันธุ์ หงอนบางเรียบกอดกระหม่อม ปากแหลมคม มีร่องน้ำ เหง้าปากใหญ่ ปากสีเดียวกับแข้ง หูรัด เหนียงเล็ก ไม่หย่อนยาน มีสายเลือดดี สีตรงตามสายพันธุ์หรือสีเดียวตลอดทั้งตัว ไม่ควรมีสีด่างหรือสีเปรอะ ขนสร้อยคอมีขลิบตามพันธุ์ มีโครงร่างดี จับยาวสองท่อน คอดกลาง บานหัว บานท้าย กระดูกอกใหญ่และไม่คดงอ บั้นท้ายโตแบน หลังยาว ปั้นขาใหญ่ คอยาวโค้งแบบคอม้าหรือคองูเห่า กระดูกปล้องคอถี่และใหญ่ กระปุกน้ำมันเดียว ขั้วหางใหญ่ดกและยาว แข้งขากลม เล็ก นิ้วกลมยาว เกล็ดเรียงกันเป็นระเบียบ ท้องแข้งเต็ม มีปุ่มเดือย แข้งสีเดียวกัน ไม่ดำด่าง สีแข้งรับกับปาก สะบัดหัวเล่นสร้อยตลอดเวลา จิตใจดี มีน้ำอดน้ำทน มีประวัติการให้ลูกเก่ง มีเชิงชนและลีลาดี คล่องแคล่วว่องไว
การเตรียมรังสำหรับวางไข่
การเตรียมรังสำหรับวางไข่นี้ ถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่มีความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างจากแม่ไก่ธรรมชาติ บางท่านอาจถือว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่นักเลงไก่ในสมัยก่อนพยามปกปิดเป็นความลับมาเป็นเวลาช้านานไม่แพร่ให้บุคคลทั่วไปรับรู้ ซึ่งวิธีการทำรังไก่มีดังนี้
ต้องทำรังไก่ในตอนเช้าวันอังคารกับวันเสาร์ เพราะเป็นวันแข็ง
ห้ามให้สตรีเป็ผู้ทำรังไก่ไข่เป็นอันขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้ลูกไก่ที่เกิดมาอ่อนแอ
ให้หันหน้ารังไก่ไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
นำกระบุงที่ใช้สำหรับใส่ของมาทำรังไก่ ควรเป็นกระบุงที่ใช้ใส่ของขายแล้วขายดี ได้เงินมาก
นำหนาม 5 อย่างต่อไปนี้ มาใส่ถุงแล้ววางไว้ใต้รัง หนามแดง หนาพุงตอ หนามส้ม หนามหวาย
**และหนามไม้ร้อง เพื่อเป็นเคล็ดให้ไก่ตีแม่น
ควรใช้ใบยาสูบหรือตะไคร้ตากแห้งรองที่ก้นรังไก่ เพื่อป้องกันแม่และลูกไก่จากพวกเห็บ เหาและไร
หามูลฝอยและวัสดุมารองรังไก่ ประกอบด้วย
หัวงูเห่าตากแห้ง เชื่อว่าจะช่วยให้ไก่ชนตีคู่ต่อสู้แล้วทำให้ตาของคู่ต่อสู้มืดมิดมองไม่เห็น
ไม้คานที่หักคาบ่า เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนมีลำหักลำโค่นดี
เศษใบไม้ใบหญ้าของลมหมุน เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนตีคู่ต่อสู้แล้ววนหักเหมือนลมหมุน
ไม้ที่ถูกฟ้าผ่า เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนตีแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ชักดิ้นชักงอ เหมือนโดนฟ้าผ่า
หญ้าแพรก เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนที่ถูกตี ฟื้นตัวง่ายเหมือนกับหญ้าแพรก
ไม้ที่เคยตีหรือขว้างปาไก่ตัวผู้ถึงกับชักหรือตายมาแล้ว วางขวางไว้หน้ารังไก่ ให้แม่ไก่ข้ามขึ้น
ลงขณะไปวางไข่ เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม
หัวงูเห่า หัวเสือปลา หัวพังพอน หัวเหยี่ยวนกเขาหรือเหยี่ยวหัวขาว เลือกเอาเพียงอย่างเดียว
นำไปแขวนไว้ที่ใต้รังไก่
ทองคำ เชื่อว่าจะทำให้ลูกไก่ชนที่เกิดมามีขนสร้อยสีสวยงามเหมือนทองคำ
ใบเงิน ใบทอง ใช้ใบเงิน ใบทองอย่างละ 5 ใบ รองรังไก่ เพื่อเป็นเคล็ดให้ได้เงินทองมากๆ
ใบขนุน ใช้ใบขนุนแห้ง 5 ใบ รองรังไก่ เพื่อเป็นเคล็ดให้เกื้อหนุน ให้ได้เงินทองมากๆ
การคัดเลือกไข่
เมื่อแม่ไก่ได้รับการผสมพันธุ์และวางไข่ไว้ภายในรังที่เตรียมเอาไว้แล้ว จะต้องคัดไข่ที่มีเปลือกบาง ผิวขรุขระ ไข่แฝด ฟองเล็กเกินไป และฟองที่มีรอยแตกร้าวออกไป เพราะไข่เหล่านี้ถือว่าเป็นไข่ที่ผิดปกติ อัตราการฟักออกเป็นตัวต่ำ ถึงจะฟักออกเป็นตัวก็เป็นลูกไก่ที่ไม่สมบูรณ์ ไข่ที่คัดออกนี้สามารถนำไปประกอบอาหารได้ ถ้าไข่มีจำนวนมากเกินไป แม่ไก่จะกกไม่ทั่วถึง ไข่จะล้นอกแม่ไก่ทำให้ไข่เน่าเสีย ลูกไก่ที่เกิดมาจะไม่แข็งแรง และถ้าลูกไก่มีจำนวนมากเกินไปจะเกิดการแย่งอาหารกัน จึงคัดไข่ส่วนหนึ่งออก เหลือไว้เพียง 5 - 10 ฟอง

การฟักไข่
การให้แม่ไก่กกไข่เองนั้นมีข้อดีอยู่หลายประการ เช่น เป็นการประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา และที่สำคัญคือลูกไก่จะได้รับความอบอุ่นและเรียนรู้สัญชาตญาณจากแม่ไก่ ดังนั้นไก่ชนจึงไม่สมควรที่จะใช้ตู้ฟักไข่ เมื่อแม่ไก่วางไข่จนฟองสุดท้ายแล้วก็จะเริ่มกกไข่เอง ใช้เวลาประมาณ 18 – 21 วัน ไข่ก็จะฟักออกเป็นตัว ซึ่งวิธีการฟักไข่ที่ได้รับความนิยมมี 2 วิธี
วิธีธรรมชาติโดยใช้แม่ไก่กกเอง เป็นวิธีที่ประหยัดและนิยมทำกันมากที่สุด ระยะเริ่มแรกของการฟักไข่ แม่ไก่จะใช้เวลาเกือบทั้งวันในการกกไข่และคอยกลับไข่ ในช่วงนี้ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้แม่ไก่ถูกรบกวน ต้องคอยดูแลเติมน้ำและให้อาหารแก่แม่ไก่อย่างพอเพียง เพราะถ้าแม่ไก่เกิดความเครียดหรือหิวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองได้ เมื่อแม่ไก่กกไข่ได้ประมาณ 10 วัน ให้ใช้ไฟฉายส่องไข่ดูว่ามีตัวอ่อนหรือไม่ จากนั้นคัดไข่ที่ไม่มีตัวอ่อนหรือผสมไม่ติดออกไป แล้วให้แม่ไก่กกไข่ต่อไปอีก ประมาณ 8 - 11 วัน ไข่ก็จะฟักออกเป็นตัว จากนั้นจะปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเองหรือจะแยกเลี้ยงก็ได้
วิธีจัดการให้แม่ไก่ตัวอื่นฟักแทน เป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาแม่ไก่จิกกินไข่ของตนเองหรือจิกกินลูกไก่ที่ฟักออกมา ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากความเครียดจากการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ดีหรืออาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของแม่ไก่ก็ได้ ปัญหานี้แก้ไขได้โดยเก็บไข่ไปฝากให้แม่ไก่ตัวอื่นกกแทน วิธีนี้เรียกว่า ”ใช้มือปืน” ซึ่งก็หมายความว่าให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทนนั่นเอง
มี 2 แบบอย่างกว้างๆ คือ
การผสมพันธุ์ระหว่าง พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ไม่เป็นญาติกัน
การผสมกันระหว่างญาติพี่น้องสายเลือดใกล้ชิดกัน หรือเรียกว่าการผสมพันธุ์แบบเลือดชิด อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติเราจะหลีกเลี่ยงการผสมเลือดชิดค่อนข้างยาก เพราะเรามีจำนวนพ่อแม่พันธุ์จำกัด ในทางทฤษฎีก็ทำได้แต่อย่าให้เลือดชิดสูงเกิน 49% โดยเฉพาะการปรับปรุงพันธุ์ไก่ให้ได้เลือดบริสุทธิ์หรือพันธุ์แม้ เราจะผสมพันธุ์ให้เลือดสูงถึง 49% ก็จะได้พันธุ์ใหม่ หรือพันธุ์ของเราเองซึ่งเป็นพันธุ์ไก่ที่มีคุณสมบัติเฉพาะพันธุ์ ในทางปฏิบัติทั่วๆ ไป เราจะพยายามให้เปอร์เซ็นต์การผสมเลือดชิดอยู่ระหว่าง 15-25% อัตราการผสมเลือดชิดนี้ จะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ดังนั้นเราต้องวางแผนว่าในระยะเวลา 10 ปี ข้างหน้าเราจะให้ฝูงไก้ของเรามีเลือดชิดกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปคำนวณหาว่าเรา ควรจะมีพ่อ - แม่พันธุ์ในฝูงของเรากี่ตัว ซึ่งเกษตรกรส่วนมากไม่รู้ว่าฝูงไก่ของเราหรือในฟาร์มของเรา ควรจะเก็บพ่อ - แม่หรือไก่ทดแทนไว้กี่ตัว จึงจะทำการปรับปรุงพันธุ์ได้ ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้
สูตร : อัตราการผสมเลือดชิดเพิ่มขึ้นต่อปี=100 x [(1/(8 x จำนวนพ่อพันธุ์)) + (1/(8 x จำนวนแม่พันธุ์))]%
การคัดเลือกพ่อพันธุ์
พ่อพันธุ์จะต้องมีอายุอยู่ในช่วง 1 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี น้ำหนักตัวตั้งแต่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องมาจากสายเลือดที่บริสุทธิ์ มีรูปร่างลักษณะดี องอาจขนปีกและขนหางขึ้นเป็นระเบียบ นิสัยดี ไม่จิกตัวเมียและลูกไก่เล็ก สีตรงตามสายพันธุ์ เชิงชนหรือลีลาดี ตีแม่นยำ ลำหักลำโค่นดี จิตใจดีเหมียวแน่น ชนชนะบ่อยครั้ง
การคัดเลือกแม่พันธุ์
หน้าแหลมกลมกลึงแบบหน้านก ตาเรียวไม่ลึก ขอบตาสองชั้น ตาสีตามสายพันธุ์ หงอนบางเรียบกอดกระหม่อม ปากแหลมคม มีร่องน้ำ เหง้าปากใหญ่ ปากสีเดียวกับแข้ง หูรัด เหนียงเล็ก ไม่หย่อนยาน มีสายเลือดดี สีตรงตามสายพันธุ์หรือสีเดียวตลอดทั้งตัว ไม่ควรมีสีด่างหรือสีเปรอะ ขนสร้อยคอมีขลิบตามพันธุ์ มีโครงร่างดี จับยาวสองท่อน คอดกลาง บานหัว บานท้าย กระดูกอกใหญ่และไม่คดงอ บั้นท้ายโตแบน หลังยาว ปั้นขาใหญ่ คอยาวโค้งแบบคอม้าหรือคองูเห่า กระดูกปล้องคอถี่และใหญ่ กระปุกน้ำมันเดียว ขั้วหางใหญ่ดกและยาว แข้งขากลม เล็ก นิ้วกลมยาว เกล็ดเรียงกันเป็นระเบียบ ท้องแข้งเต็ม มีปุ่มเดือย แข้งสีเดียวกัน ไม่ดำด่าง สีแข้งรับกับปาก สะบัดหัวเล่นสร้อยตลอดเวลา จิตใจดี มีน้ำอดน้ำทน มีประวัติการให้ลูกเก่ง มีเชิงชนและลีลาดี คล่องแคล่วว่องไว
การเตรียมรังสำหรับวางไข่
การเตรียมรังสำหรับวางไข่นี้ ถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่มีความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างจากแม่ไก่ธรรมชาติ บางท่านอาจถือว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่นักเลงไก่ในสมัยก่อนพยามปกปิดเป็นความลับมาเป็นเวลาช้านานไม่แพร่ให้บุคคลทั่วไปรับรู้ ซึ่งวิธีการทำรังไก่มีดังนี้
ต้องทำรังไก่ในตอนเช้าวันอังคารกับวันเสาร์ เพราะเป็นวันแข็ง
ห้ามให้สตรีเป็ผู้ทำรังไก่ไข่เป็นอันขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้ลูกไก่ที่เกิดมาอ่อนแอ
ให้หันหน้ารังไก่ไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
นำกระบุงที่ใช้สำหรับใส่ของมาทำรังไก่ ควรเป็นกระบุงที่ใช้ใส่ของขายแล้วขายดี ได้เงินมาก
นำหนาม 5 อย่างต่อไปนี้ มาใส่ถุงแล้ววางไว้ใต้รัง หนามแดง หนาพุงตอ หนามส้ม หนามหวาย
**และหนามไม้ร้อง เพื่อเป็นเคล็ดให้ไก่ตีแม่น
ควรใช้ใบยาสูบหรือตะไคร้ตากแห้งรองที่ก้นรังไก่ เพื่อป้องกันแม่และลูกไก่จากพวกเห็บ เหาและไร
หามูลฝอยและวัสดุมารองรังไก่ ประกอบด้วย
หัวงูเห่าตากแห้ง เชื่อว่าจะช่วยให้ไก่ชนตีคู่ต่อสู้แล้วทำให้ตาของคู่ต่อสู้มืดมิดมองไม่เห็น
ไม้คานที่หักคาบ่า เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนมีลำหักลำโค่นดี
เศษใบไม้ใบหญ้าของลมหมุน เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนตีคู่ต่อสู้แล้ววนหักเหมือนลมหมุน
ไม้ที่ถูกฟ้าผ่า เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนตีแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ชักดิ้นชักงอ เหมือนโดนฟ้าผ่า
หญ้าแพรก เชื่อว่าจะทำให้ไก่ชนที่ถูกตี ฟื้นตัวง่ายเหมือนกับหญ้าแพรก
ไม้ที่เคยตีหรือขว้างปาไก่ตัวผู้ถึงกับชักหรือตายมาแล้ว วางขวางไว้หน้ารังไก่ ให้แม่ไก่ข้ามขึ้น
ลงขณะไปวางไข่ เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนาม
หัวงูเห่า หัวเสือปลา หัวพังพอน หัวเหยี่ยวนกเขาหรือเหยี่ยวหัวขาว เลือกเอาเพียงอย่างเดียว
นำไปแขวนไว้ที่ใต้รังไก่
ทองคำ เชื่อว่าจะทำให้ลูกไก่ชนที่เกิดมามีขนสร้อยสีสวยงามเหมือนทองคำ
ใบเงิน ใบทอง ใช้ใบเงิน ใบทองอย่างละ 5 ใบ รองรังไก่ เพื่อเป็นเคล็ดให้ได้เงินทองมากๆ
ใบขนุน ใช้ใบขนุนแห้ง 5 ใบ รองรังไก่ เพื่อเป็นเคล็ดให้เกื้อหนุน ให้ได้เงินทองมากๆ
การคัดเลือกไข่
เมื่อแม่ไก่ได้รับการผสมพันธุ์และวางไข่ไว้ภายในรังที่เตรียมเอาไว้แล้ว จะต้องคัดไข่ที่มีเปลือกบาง ผิวขรุขระ ไข่แฝด ฟองเล็กเกินไป และฟองที่มีรอยแตกร้าวออกไป เพราะไข่เหล่านี้ถือว่าเป็นไข่ที่ผิดปกติ อัตราการฟักออกเป็นตัวต่ำ ถึงจะฟักออกเป็นตัวก็เป็นลูกไก่ที่ไม่สมบูรณ์ ไข่ที่คัดออกนี้สามารถนำไปประกอบอาหารได้ ถ้าไข่มีจำนวนมากเกินไป แม่ไก่จะกกไม่ทั่วถึง ไข่จะล้นอกแม่ไก่ทำให้ไข่เน่าเสีย ลูกไก่ที่เกิดมาจะไม่แข็งแรง และถ้าลูกไก่มีจำนวนมากเกินไปจะเกิดการแย่งอาหารกัน จึงคัดไข่ส่วนหนึ่งออก เหลือไว้เพียง 5 - 10 ฟอง
การฟักไข่
การให้แม่ไก่กกไข่เองนั้นมีข้อดีอยู่หลายประการ เช่น เป็นการประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา และที่สำคัญคือลูกไก่จะได้รับความอบอุ่นและเรียนรู้สัญชาตญาณจากแม่ไก่ ดังนั้นไก่ชนจึงไม่สมควรที่จะใช้ตู้ฟักไข่ เมื่อแม่ไก่วางไข่จนฟองสุดท้ายแล้วก็จะเริ่มกกไข่เอง ใช้เวลาประมาณ 18 – 21 วัน ไข่ก็จะฟักออกเป็นตัว ซึ่งวิธีการฟักไข่ที่ได้รับความนิยมมี 2 วิธี
วิธีธรรมชาติโดยใช้แม่ไก่กกเอง เป็นวิธีที่ประหยัดและนิยมทำกันมากที่สุด ระยะเริ่มแรกของการฟักไข่ แม่ไก่จะใช้เวลาเกือบทั้งวันในการกกไข่และคอยกลับไข่ ในช่วงนี้ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้แม่ไก่ถูกรบกวน ต้องคอยดูแลเติมน้ำและให้อาหารแก่แม่ไก่อย่างพอเพียง เพราะถ้าแม่ไก่เกิดความเครียดหรือหิวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองได้ เมื่อแม่ไก่กกไข่ได้ประมาณ 10 วัน ให้ใช้ไฟฉายส่องไข่ดูว่ามีตัวอ่อนหรือไม่ จากนั้นคัดไข่ที่ไม่มีตัวอ่อนหรือผสมไม่ติดออกไป แล้วให้แม่ไก่กกไข่ต่อไปอีก ประมาณ 8 - 11 วัน ไข่ก็จะฟักออกเป็นตัว จากนั้นจะปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเองหรือจะแยกเลี้ยงก็ได้
วิธีจัดการให้แม่ไก่ตัวอื่นฟักแทน เป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาแม่ไก่จิกกินไข่ของตนเองหรือจิกกินลูกไก่ที่ฟักออกมา ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากความเครียดจากการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ดีหรืออาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของแม่ไก่ก็ได้ ปัญหานี้แก้ไขได้โดยเก็บไข่ไปฝากให้แม่ไก่ตัวอื่นกกแทน วิธีนี้เรียกว่า ”ใช้มือปืน” ซึ่งก็หมายความว่าให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทนนั่นเอง
สายพันธ์ไก่ชน
ไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้านกับไก่ชน
ไก่บ้านหรือไก่พื้นบ้านมาจากไหน
|
Subscribe to:
Posts (Atom)